วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สมมติฐาน(Hypothesis)



                   http://blog.eduzones.com/jipatar/85921
 ได้รวบรวมและกล่าวถึงสมมติฐานของการวิจัยไว้ว่า การตั้งสมมติฐาน เป็นการคาดคะเนหรือการทายคำตอบอย่างมีเหตุผล มักเขียนในลักษณะ การแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรอิสระหรือตัวแปรต้น(independent variables) และตัวแปรตาม (dependent variable) เช่น การติดเฮโรอีนชนิดฉีด เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเอดส์ สมมติฐานทำหน้าที่เสมือนเป็นทิศทาง และแนวทาง ในการวิจัย จะช่วยเสนอแนะ แนวทางในการ เก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป สมมติฐานต้องตอบวัตถูประสงค์ของการวิจัยได้ครบถ้วนและทดสอบและวัดได้
                http://www.oknation.net/blog/manrit/2007/09/24/entry-1 ได้รวบรวมและกล่าวถึงสมมติฐานของการวิจัยไว้ว่า สมมุติฐาน คือ คำตอบที่ผู้วิจัยคาดคะเนไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุผล เพื่อตอบความมุ่งหมาย (วัตถุประสงค์) ของการวิจัยที่ตั้งไว้
                สมมุติฐานการวิจัย มี ๒ ชนิด
               ก. แบบมีทิศทาง
ถ้าเป็นการวิจัยเปรียบเทียบ จะมีคำว่า "มากว่า", "น้อยกว่า", "สูงกว่า", "ต่ำกว่า" อยู่ในสมมุติฐานนั้น
ถ้าเป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์ จะมีคำว่า "สัมพันธ์กันทางบวก", "สัมพันธ์กันทางลบ"
                ข. แบบไม่มีทิศทาง
ถ้าเป็นการวิจัยเปรียบเทียบ จะมีคำว่า "แตกต่างกัน" อยู่ในสมมุติฐานนั้น
ถ้าเป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์ จะมีคำว่า "สัมพันธ์กัน"
                ลักษณะของงานวิจัยที่ต้องตั้งสมมุติฐาน มี ๓ ลักษณะ คือ
                ก. แบบเปรียบเทียบ
                ข. แบบหาความสัมพันธ์
                ค.  แบบทดลอง
                http://www.stks.or.th/blog/?p=2385  ได้รวบรวมและกล่าวถึงสมมติฐานของการวิจัยไว้ว่า สมมติฐาน คือความคาดหวังเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ได้จากการสรุปเป็นการทั่วไป ที่หวังว่าตัวแปร 2 ตัวหรือหลายตัวจะมีความสัมพันธ์กันอย่างใดอย่างหนึ่ง
                สมมติฐานที่ดีจะต้องประกอบด้วยเกณฑ์สองอย่าง คือ
ประการแรก สมมติฐานต้องเป็นข้อความแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
ประการที่สอง สมมติฐานจะต้องชัดเจน และสามารถทดสอบความสัมพันธ์ดังกล่าวได้ หากข้อความขาดคุณสมบัติดังกล่าวก็จะไม่ใช่สมมติฐาน
สรุป
                การตั้งสมมติฐาน เป็นการคาดคะเนหรือการทายคำตอบอย่างมีเหตุผล มักเขียนในลักษณะ การแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรอิสระหรือตัวแปรต้น(independent variables) และตัวแปรตาม (dependent variable) เช่น การติดเฮโรอีนชนิดฉีด เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเอดส์ สมมติฐานทำหน้าที่เสมือนเป็นทิศทาง และแนวทาง ในการวิจัย จะช่วยเสนอแนะ แนวทางในการ เก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป สมมติฐานต้องตอบวัตถูประสงค์ของการวิจัยได้ครบถ้วนและทดสอบและวัดได้
                สมมุติฐานการวิจัย มี ๒ ชนิด
               ก. แบบมีทิศทาง
ถ้าเป็นการวิจัยเปรียบเทียบ จะมีคำว่า "มากว่า", "น้อยกว่า", "สูงกว่า", "ต่ำกว่า" อยู่ในสมมุติฐานนั้น
ถ้าเป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์ จะมีคำว่า "สัมพันธ์กันทางบวก", "สัมพันธ์กันทางลบ"
                ข. แบบไม่มีทิศทาง
ถ้าเป็นการวิจัยเปรียบเทียบ จะมีคำว่า "แตกต่างกัน" อยู่ในสมมุติฐานนั้น
ถ้าเป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์ จะมีคำว่า "สัมพันธ์กัน"
                ลักษณะของงานวิจัยที่ต้องตั้งสมมุติฐาน มี ๓ ลักษณะ คือ
                ก. แบบเปรียบเทียบ
                ข. แบบหาความสัมพันธ์
                ค.  แบบทดลอง
อ้างอิง
http://blog.eduzones.com/jipatar/85921 เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555
http://www.oknation.net/blog/manrit/2007/09/24/entry-1   เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555
http://www.stks.or.th/blog/?p=2385  เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น