ดร.พิชิต ฤทธิ์จรูญ
(2544 : 392)
ได้กล่าวว่าภาคผนวกเป็นรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่ต้องนำเสนอยืนยันเพื่อแสดงถึงการดำเนินการวิจัยอย่างเป็นระบบ
และเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลงานวิจัยอีกทั้งจะเป็นการช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจรายงานการวิจัยได้ดียิ่งขึ้น
และได้เห็นแบบอย่างหรือแนวทางการดำเนินงานในบางประการ
ภาคผนวกมีหลายลักษณะซึ่งอาจนำเสนอแยกเป็นหมวดหมู่เป็นภาคผนวก ก ภาคผนวก ข ภาคผนวก
ค ฯลฯ และอาจเรียงลำดับตามขั้นตอนของกระบวนการวิจัย
ผศ.เรืองอุไร ศรีนิลทา
(2535 : 236) ได้กล่าวว่าภาคผนวกเป็นตอนสุดท้ายของรายงานวิจัย
ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้แล้วแต่ความจำเป็น หลักการทั่วไปเกี่ยวกับภาคผนวกได้แก่
ภาคผนวกคือที่สำหรับรวบรวมข้อมูลและข้อสนเทศทั้งหลาย
ที่ไม่ถึงกับจำเป็นที่จะต้องเสนอไว้ในตัวเรื่อง
แต่ก็อาจจะมีความสำคัญในการขยายความสาระสำคัญบางสาระเพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น และข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญมากที่ควรเสนอไว้ในตัวเรื่อง
แต่จำนวนรายการของข้อมูลหรือข้อสนเทศชุดนั้นมากเกินไป
จึงไม่เหมาะแก่การนำเสนอในตัวเรื่อง
พรศรี
ศรีอัษฎาพร, ยุวดี วัฒนานนท์
(2529 : 161) ได้กล่าวว่าภาคผนวกอาจมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีสิ่งใดที่มีความสำคัญ
และไม่ต้องการให้สื่อความหมายหรือความเข้าใจไปพร้อมกับการอ่านรายงาน ให้นำไปใส่ไว้ในภาคผนวก
เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบฟอร์มการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือตารางบางตาราง
สรุป
ภาคผนวกเป็นตอนสุดท้ายของรายงานวิจัย
เป็นรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่ต้องนำเสนอยืนยันเพื่อแสดงถึงการดำเนินการวิจัยอย่างเป็นระบบ
และเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลงานวิจัยอีกทั้งจะเป็นการช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจรายงานการวิจัยได้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้แล้วแต่ความจำเป็นแต่ถ้ามีสิ่งใดที่มีความสำคัญ
และไม่ต้องการให้สื่อความหมายหรือความเข้าใจไปพร้อมกับการอ่านรายงาน ให้นำไปใส่ไว้ในภาคผนวก
เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบฟอร์มการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือตารางบางตาราง
อ้างอิง
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2544). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสัมคมศาสตร์. กรุงเทพฯ : ศูนย์หนังสือราชภัฏพระนคร.
เรืองอุไร ศรีนิลทา. (2535). ระเบียบวิธีวิจัย. กรุงเทพฯ :
สำนักส่งเสริมและฝึกอบรมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พรศรี ศรีอัษฎาพร, ยุวดี วัฒนานนท์. (2529). สถิติและการวิจัยเบื้องต้น.
กรุงเทพฯ : สามเจริญพานิช.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น