http://rforvcd.wordpress.com ได้รวบรวมและกล่าวถึงความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัยไว้ว่า
ความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัย อาจเรียกแตกต่างกัน เช่น
ความเป็นมาหรือความสำคัญของปัญหา หลักการและเหตุผล ภูมิหลังของปัญหา ความจำเป็นที่จะทำการวิจัย หรือ
ความสำคัญของโครงการวิจัย ฯลฯ รวมทั้งความจำเป็น คุณค่า และประโยชน์
ที่จะได้จากผลการวิจัยในเรื่องนี้
โดยผู้วิจัยควรเริ่มจากการเขียนปูพื้นโดยมองปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาอย่างกว้างๆ
ก่อนว่าสภาพทั่วๆไปของปัญหาเป็นอย่างไร และภายในสภาพที่กล่าวถึง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยหยิบยกมาศึกษาคืออะไร ระบุว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้
มาแล้วหรือยัง ที่ใดบ้าง และการศึกษาที่เสนอนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่า ต่องานด้านนี้
ได้อย่างไร
การเขียนความเป็นมาหรือความสำคัญของปัญหาการวิจัยต้องเขียนให้หนักแน่น
มีเหตุผลสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ
ชี้ประเด็นให้เห็นความสำคัญของการวิจัยอย่างแท้จริง
กรณีที่เป็นศิลปนิพนธ์ให้อธิบายเหตุผลที่เลือกทำศิลปนิพนธ์เรื่องนี้
โดยอ้างทฤษฎีรายงานการวิจัยที่เกี่ยวข้องปัญหาที่ต้องการทราบและความสำคัญหรือประโยชน์ของการทำศิลปนิพนธ์เรื่องนี้มาสนับสนุนเหตุผล
ควรเขียนให้กระชับและให้ความชัดเจน
จากเนื้อหาในมุมกว้างแล้วเข้าสู่ปัญหาของศิลปนิพนธ์ที่ทำ
เพื่อให้สามารถโน้มน้าวให้ผู้อ่านหรือผู้อนุมัติโครงการวิจัยคล้อยตามว่าถ้าหากวิจัยแล้วจะเกิดคุณประโยชน์อย่างไร
แล้วสรุปเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์การวิจัย
http://www.gotoknow.org/posts/261202 ได้รวบรวมและกล่าวถึงความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัยไว้ว่า
การเขียนความสำคัญและความเป็นมาของการวิจัย
เป็นการเขียนเพื่อตอบคำถามว่าเหตุใดจึงต้องวิจัยเรื่องนี้
ข้อค้นพบจากการวิจัยจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร
มีความคุ้มค่าหรือไม่ในการวิจัยเรื่องดังกล่าว
นิยมเขียนเน้นความเรียงที่เน้นความเป็นเหตุเป็นผล
มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของเนื้อหาสาระ โดยให้มีความกระชับเข้าใจง่าย
การเขียนนำเข้าสู่ปัญหาวิจัยควรเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวปัญหา
โดยเขียนให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า ณ
เวลาปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยในอดีตที่สามารถตอบปัญหาดังกล่าวได้
และปัญหาดังกล่าวสมควรได้รับการแก้ไขด้วยการหาคำตอบ โดยกระบวนการวิจัย
http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~jaimorn/re4.htm ได้รวบรวมและกล่าวถึงความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัยไว้ว่า
ปัญหาการวิจัย คือ
ประเด็นที่นักวิจัยสงสัยและต้องการดำเนินการเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง
ตรงกับความเป็นจริง ทำให้มีลักษณะข้อสงสัยของผู้วิจัยต่อสถานการณ์ทั้งที่เป็นความแตกต่างและไม่แตกต่างระหว่างสิ่งที่เป็นจริงกับสิ่งที่คาดหวัง
และที่สำคัญปัญหานั้นไม่สามารถหาคำตอบด้วยสามัญสำนึก
ดังนั้น การกำหนดปัญหาการวิจัย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักสำหรับนักวิจัยที่จะกำหนดปัญหาการวิจัยที่ง่าย
ชัดเจน และครบถ้วนสมบูรณ์ นักวิจัยส่วนมากอาจมีแนวความคิดที่สลับซับซ้อน
บางคนอาจใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างแนวคิด และวิเคราะห์
ก่อนที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่า
ปัญหาการวิจัยที่เขาต้องการจะหาคำตอบที่แท้จริงคืออะไร
สรุป
ความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัย อาจเรียกแตกต่างกัน เช่น
ความเป็นมาหรือความสำคัญของปัญหา หลักการและเหตุผล
ภูมิหลังของปัญหา ความจำเป็นที่จะทำการวิจัย หรือ ความสำคัญของโครงการวิจัย
การเขียนความเป็นมาหรือความสำคัญของปัญหาการวิจัยต้องเขียนให้หนักแน่น มีเหตุผลสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ
ชี้ประเด็นให้เห็นความสำคัญของการวิจัยอย่างแท้จริง
เป็นการเขียนเพื่อตอบคำถามว่าเหตุใดจึงต้องวิจัยเรื่องนี้
ข้อค้นพบจากการวิจัยจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร
มีความคุ้มค่าหรือไม่ในการวิจัยเรื่องดังกล่าว นิยมเขียนเน้นความเรียงที่เน้นความเป็นเหตุเป็นผล
มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของเนื้อหาสาระ
ดังนั้น การกำหนดปัญหาการวิจัย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักสำหรับนักวิจัยที่จะกำหนดปัญหาการวิจัยที่ง่าย
ชัดเจน และครบถ้วนสมบูรณ์ นักวิจัยส่วนมากอาจมีแนวความคิดที่สลับซับซ้อน
บางคนอาจใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างแนวคิด และวิเคราะห์
ก่อนที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่า
ปัญหาการวิจัยที่เขาต้องการจะหาคำตอบที่แท้จริงคืออะไร
อ้างอิง
http://rforvcd.wordpress.com เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2555
http://www.gotoknow.org/posts/261202
เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2555
http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~jaimorn/re4.htm
เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น